รวม 10 เรื่อง ที่ชาวสวนมือใหม่ต้องรู้ ก่อนเริ่มปลูกทุเรียน
1 I การเลือกซื้อต้นกล้าพันธุ์ทุเรียน
ต้นพันธุ์ทุเรียนที่ดีให้เลือกซื้อต้นที่ได้รับการเสียบยอด เพราะต้นตอเป็นพันธุ์พื้นเมือง มีรากที่แข็งแรง หาอาหารเก่ง กล้าพันธุ์อายุไม่เกิน 1 ปี ความสูงประมาณ 1 เมตร และ ไม่ควรเลือกทุเรียนที่แก่จัด เพราะรากจะขดอยู่ในถุงปลูก ทำให้โตช้า สังเกตได้จากสีของลำต้น ต้นที่ดีควรมีสีน้ำตาลอ่อน ใบมีสีเขียวเข้ม หนา แข็งแรง ไม่มีโรคแมลง
2 I ปลูกทุเรียน ให้อร่อยจะต้องนับวันตัด
การนับวันตัดจะช่วยให้ไม่ต้องเผลอตัดทุเรียนอ่อน แล้วโดนผู้บริโภคร้องเรียน เพราะรสชาติที่ไม่อร่อย และ ไม่ใช่ทุกสายพันธุ์ของทุเรียนจะสามารถนับวันตัดเหมือนกันได้หมด เนื่องจากทุเรียนสามารถแบ่งตามอายุการแก่ของผลทุเรียนเป็น 3 ประเภท ได้แก่ พันธุ์เบา พันธุ์กลาง พันธุ์หนัก
ทุเรียนพันธุ์เบา ให้ผลเร็ว และ ใช้เวลาสุกเร็วประมาณ 90 วัน หลังจากดอกโรยเพื่อเก็บผลผลิต เช่น กระดุมทอง พวงมณี
ทุเรียนพันธุ์กลาง ใช้เวลาประมาณ 100 วัน หลังจากดอกโรยเพื่อเก็บผลผลิต เช่น ชะนี ก้านยาว
ทุเรียนพันธุ์หนัก ใช้เวลาประมาณ 120-130 หลังจากดอกโรยเพื่อเก็บผลผลิต เช่น หมอนทอง ทองย้อย
3 I ปลูกทุเรียน ใหม่ควรพรางแสงเพื่อป้องกันใบไหม้
การปลูกทุเรียนใหม่ควรใช้ซาแรนพรางแสงในแนวทิศตะวันตก และ ตะวันออก เพื่อไม่ให้ใบไหม้ และ ต้นแห้งตายจากแสงแดดที่ร้อนจัด จากนั้นใช้กาบมะพร้าว และ ฟางกลบรอบโคนต้นอีกชั้น เพื่อเก็บความชื้น และ ความอุดมสมบูรณ์ในดิน โดยช่วงที่เหมาะสำหรับปลูกทุเรียนมากที่สุด คือ ต้นฤดูฝน จะช่วยให้ต้นทุเรียนปรับตัวได้ง่าย
4 I ปลูกทุเรียน ให้ใช้ดินที่เหมาะสมและการเตรียมแปลงปลูก
ทุเรียนชอบดินที่มีอินทรีย์วัตถุมาก ความเป็นกรดด่างของดิน 5.5-6.5 และ ระบายน้ำได้ดี เพราะทุเรียนเป็นพืชที่อ่อนแอต่อสภาพน้ำท่วมขัง สำหรับพื้นที่ราบลุ่ม ระบายน้ำได้ยาก จำเป็นต้องทำโคกให้สูงประมาณ 80-120 ซม. เพื่อป้องกันน้ำขัง และ ระบายน้ำได้ดี มีฐานกว้าง 3-4 เมตร ระยะในการปลูก 8×8 หรือ 10×10 ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของทุเรียน
5 I สายพันธุ์ทุเรียนแบ่งได้ 6 กลุ่ม
หลายคนคงเคยได้ชิมความอร่อยของทุเรียนนนท์ หลงลับแล ป่าละอู พวงมณี หมอนทอง แต่รู้ไหมว่า ทุเรียนในไทยจริงๆ แล้วมีอีกหลายสายพันธุ โดยถ้าแบ่งตามลักษณะของผลจะแบ่งได้ 6 กลุ่มตามนี้
ทุเรียนกลุ่มกบ ผลมีลักษณะกลมรี ลักษณะของหนามเป็นแบบโค้งงอ
ทุเรียนกลุ่มลวง ผลมีลักษณะ 2 แบบ คือ แบบทรงกระบอก และ แบบกลมรี ลักษณะของหนามจะเว้า สายพันธุ์ที่นิยมทาน คือ ชะนี
ทุเรียนกลุ่มก้านยาว ผลมีลักษณะกลมรีคล้ายกับไข่กลับด้าน ลักษณะของหนามจะนูน
ทุเรียนกลุ่มกำปั่น ผลมีลักษณะเป็นทรงขอบขนาด หนามตรง รู้จักกันดี คือ หมอนทอง
ทุเรียนกลุ่มทองย้อย ผลมีลักษณะเป็นรูปไข่ และ หนามนูนแหลม
ทุเรียนกลุ่มเบ็ดเตล็ด มีลักษณะที่ไม่แน่ชัด บางลักษณะก็คล้ายคลึงก็ 5 กลุ่มก่อนหน้านี้
6 I เมล็ดทุเรียนสามารถนำมาเพาะต่อได้
หากใครเคยทานทุเรียนแล้วนำเมล็ดมาเพาะ ไม่นานทุเรียนจะเริ่มแทงรากออกมาพร้อมเจริญเติบโตได้ไม่ยาก แต่รู้ไหมว่า เมล็ดทุเรียนที่จะนำมาเพาะส่วนใหญ่จะใช้เป็นทุเรียนพื้นเมือง หรือ ทุเรียนป่า ก็เพื่อเป็นต้นตอสำหรับเสียบยอดทุเรียนพันธุ์ดี อย่าง หมอนทอง ถึงแม้ว่าหมอนทองจะเองให้เนื้อเยอะ เมล็ดลีบ รสชาติอร่อย แต่รากจริงๆ กลับไม่แข็งแรง อ่อนแอต่อโรคได้ง่าย จึงนิยมนำมาเสียบยอดมากกว่า
7 I ช่วยผสมเกสรดอกทุเรียนตอนกลางคืน
ในธรรมชาติดอกของทุเรียนจะบานช่วงกลางคืน และ มีค้างคาวคอยผสมเกสรให้ แต่โอกาสติดน้อยมาก อีกทั้งยังกำหนดตำแหน่งของผลทุเรียนไม่ได้ เกษตรกรจึงจะผสมเกสรด้วยตัวเองมากกว่า เพื่อเพิ่มโอกาสติดผลมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ทุเรียนมีผลผลิตคุณภาพดี รูปทรงสวยงาม เนื้อแน่น ตรงตามความต้องการของตลาด โดยระยะเวลาที่เหมาะสมในการผสมเกสร คือ เวลา 19:00-19:30 เป็นต้นไป
ภาพ : สวนพอใจ หลังสวน Suan Porjai Langsuan
8 I ชะลอการออกดอก เพื่อให้ทุเรียนติดผลนอกฤดู
ทุเรียนนอกฤดูเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตทุเรียนนั้นขาดตลาด วิธีการนั้นจะเริ่มจากคัดเลือกต้นที่แข็งแรง มีอายุ 8-15 ปี และ จะนิยมทำในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์
ขั้นแรกให้ปลิดดอกทุเรียนในฤดูกาลออกจนหมด ในระยะหัวตาปู และ เหยียดตีนหนู หรือ 12-17 วัน หลังเริ่มมีตุ่มดอก และ ให้ปุ๋ยที่เน้นไนโตรเจนเพื่อเร่งการแตกใบอ่อนแทน ดูแลจนแตกใบอ่อนรอบที่ 2 ก็ให้ใช้ปุ๋ยที่เน้นฟอสฟอรัส และ โพแทสเซียม เมื่อต้นสะสมอาหารเต็มที่ มีการสร้างใบที่เพียงพอ ให้ใช้สารพอโคลบิวทราโซล (Paclobutrazole) เพื่อกระตุ้นให้ออกดอก หลังจากนี้ให้ระมัดการให้น้ำไม่ให้มากเกินไป ไม่อย่างนั้นก็จะทำให้ดอกร่วงได้ ก็จะช่วยให้ต้นทุเรียนออกดอกนอกฤดูได้
9 I การโยงกิ่งทุเรียน เพื่อป้องกันกิ่งหัก
เป็นที่ทราบกันดีกว่าทุเรียนเมื่อผลใหญ่เต็มที่มีน้ำหนักไม่น้อย โดยเฉพาะกับทุเรียนสายพันธุ์หมอนทองที่มีน้ำหนักประมาณ 2-4.5 กิโลกรัมต่อผล การโยงกิ่งทุเรียนนี้จึงจำเป็น เพื่อช่วยพยุงกิ่งทุเรียนไม่ให้โค่นหักจากน้ำหนักของผลทุเรียน รวมถึงกระแสลมที่พัดผ่านเข้ามา วิธีการจะใช้เชือกมัดกิ่งทุเรียน ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะยึดเข้ากับลำต้นทุเรียนเพื่อช่วยพยุงกิ่ง
10 I ห่อผลทุเรียน เพื่อป้องกันหนอนเจาะ
ทุเรียนมีศัตรูพืชที่ยอดฮิตหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ หนอนเจาะผลทุเรียน ทำให้ที่ผ่านมามีการใช้สารเคมีเพื่อป้องกันกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้ ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น อันตรายจากสารเคมี รวมถึงกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวช่วยที่เค้ามาแก้ไขจุดอ่อนตรงนี้ได้ดี คือ การใช้ถุงห่อผลทุเรียน ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาให้นอกจากจะสามารถช่วยป้องกันหนอนได้แล้ว ยังช่วยกันเพลี้ยด้วย ลดการสะสมของเชื้อราได้จากการถ่ายเทอากาศที่