หลัก 4 ข้อ ในการใส่ปุ๋ยให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
อัพเดทล่าสุด: 18 ต.ค. 2024
14 ผู้เข้าชม
1.เลือกปุ๋ย ที่มีธาตุอาหารที่ตรงตามความต้องการของพืช
ก่อนอื่นรู้จักดินและพืชที่ปลูกก่อน เพราะพืชแต่ละชนิดเจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีค่า PH ที่ต่างกัน เช่น แตงโม เติบโตได้ดีในดินที่มีค่า PH 5-5.5 อ้อย หรือ กล้วย ค่า PH 6-7 เป็นต้น
แ ละต้องรู้ว่า แต่ละช่วง พืชต้องการธาตุอาหารอะไร เช่น N ช่วงเร่งลำต้นและใบ P ช่วงเร่งราก ลำต้น ดอก Kช่วงบำรุงผล เร่งใหญ่ยาว และธาตุอาหารรอง เสริม ต่างๆ
2.ใส่ปริมาณที่พอเหมาะ
ใส่น้อยมากผลผลิตไม่ดี มากไปเป็นพิษต่อพืชและเป็นสารตกค้างในดิน ต้องใส่ในปริมาณที่พอเหมาะตามความต้องการพืช
3.ใส่ปุ๋ยขณะที่พืชต้องการ
ต้องรู้ว่าช่วงไหนควรใส่มาก ช่วงไหนควรใส่น้อย
เช่นช่วงที่เริ่มงอกและเติบโตระยะแรก พืชต้องการธาตุอาหารน้อยและช้าเพราะรากยังน้อย หากใส่มากเกินไป
อาจทำให้พืชตายได้
ระยะพืชเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แตกกิ่งก้านสาขา และสร้างตาดอก พืชต้องการมาก เพื่อสะสม
ธาตุอาหารไว้ที่ลำต้นใบ เพื่อออกดอก ออกผล
ระยะที่โตเต็มที่แล้ว สร้างผล เมล็ด พืชจะต้องการน้อยลงเรื่อยๆ เพราะพืชได้สะสมอาหารไว้แล้ว พืชจะดึงอาหารที่สะสมไว้ มาใช้งาน
4 ใส่ถูกที่ ตรงจุด ดูได้ง่าย
ปุ๋ยแบบหว่านลงดินใส่ห่างจากต้นพืชอย่าให้โดนพืชโดยตรง หากไม้ยืนต้นให้ใส่บริเวณทรงพุ่ม ควรใส่น้อยแต่บ่อยครั้ง จะได้ประสิทธิภาพมากพืชดูดไปใช้งานได้เต็มที่ และลดการสูญเสีย และหลังใส่ควรรดน้ำตาม หรือใส่ช่วงต้นฝน และปลายฝน
ปุ๋ยทางน้ำ หรือสารอาหรพืชที่ฉีดพ่นทางใบ ให้ฉีดพ่นช่วงปากใบพืชเปิด (งดการฉีดพ่นช่วงบ่ายแก่ๆ แดดแรงจัด)
พืชจะดูซึมดูดซับได้เต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด
หากดินเป็นกรดมากๆ ต้องปรับสภาพดินด้วยผลิตภัณฑ์ปรับปรุงดิน เพื่อให้มีค่ากลับมาเป็นกลาง เหมาะแก่การเจริญเติบโตของพืช
ก่อนอื่นรู้จักดินและพืชที่ปลูกก่อน เพราะพืชแต่ละชนิดเจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีค่า PH ที่ต่างกัน เช่น แตงโม เติบโตได้ดีในดินที่มีค่า PH 5-5.5 อ้อย หรือ กล้วย ค่า PH 6-7 เป็นต้น
แ ละต้องรู้ว่า แต่ละช่วง พืชต้องการธาตุอาหารอะไร เช่น N ช่วงเร่งลำต้นและใบ P ช่วงเร่งราก ลำต้น ดอก Kช่วงบำรุงผล เร่งใหญ่ยาว และธาตุอาหารรอง เสริม ต่างๆ
2.ใส่ปริมาณที่พอเหมาะ
ใส่น้อยมากผลผลิตไม่ดี มากไปเป็นพิษต่อพืชและเป็นสารตกค้างในดิน ต้องใส่ในปริมาณที่พอเหมาะตามความต้องการพืช
3.ใส่ปุ๋ยขณะที่พืชต้องการ
ต้องรู้ว่าช่วงไหนควรใส่มาก ช่วงไหนควรใส่น้อย
เช่นช่วงที่เริ่มงอกและเติบโตระยะแรก พืชต้องการธาตุอาหารน้อยและช้าเพราะรากยังน้อย หากใส่มากเกินไป
อาจทำให้พืชตายได้
ระยะพืชเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แตกกิ่งก้านสาขา และสร้างตาดอก พืชต้องการมาก เพื่อสะสม
ธาตุอาหารไว้ที่ลำต้นใบ เพื่อออกดอก ออกผล
ระยะที่โตเต็มที่แล้ว สร้างผล เมล็ด พืชจะต้องการน้อยลงเรื่อยๆ เพราะพืชได้สะสมอาหารไว้แล้ว พืชจะดึงอาหารที่สะสมไว้ มาใช้งาน
4 ใส่ถูกที่ ตรงจุด ดูได้ง่าย
ปุ๋ยแบบหว่านลงดินใส่ห่างจากต้นพืชอย่าให้โดนพืชโดยตรง หากไม้ยืนต้นให้ใส่บริเวณทรงพุ่ม ควรใส่น้อยแต่บ่อยครั้ง จะได้ประสิทธิภาพมากพืชดูดไปใช้งานได้เต็มที่ และลดการสูญเสีย และหลังใส่ควรรดน้ำตาม หรือใส่ช่วงต้นฝน และปลายฝน
ปุ๋ยทางน้ำ หรือสารอาหรพืชที่ฉีดพ่นทางใบ ให้ฉีดพ่นช่วงปากใบพืชเปิด (งดการฉีดพ่นช่วงบ่ายแก่ๆ แดดแรงจัด)
พืชจะดูซึมดูดซับได้เต็มที่และมีประสิทธิภาพสูงสุด
หากดินเป็นกรดมากๆ ต้องปรับสภาพดินด้วยผลิตภัณฑ์ปรับปรุงดิน เพื่อให้มีค่ากลับมาเป็นกลาง เหมาะแก่การเจริญเติบโตของพืช
บทความที่เกี่ยวข้อง
ปุ๋ยน้ำ คือ ปุ๋ยที่อยู่ในรูปของเหลวและสามารถดูดซึมเข้าสู่รากและใบของพืชได้อย่างรวดเร็ว ปุ๋ยน้ำมักมีส่วนผสมของสารอาหารหลัก เช่น ไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P), และโพแทสเซียม (K) เช่นเดียวกับปุ๋ยเคมีทั่วไป แต่ในรูปแบบของสารละลายที่สามารถนำไปใช้กับระบบน้ำหยด สเปรย์ หรือฉีดพ่นได้โดยตรง ปุ๋ยน้ำมีการใช้งานที่หลากหลาย และเหมาะสำหรับเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิตอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
18 ต.ค. 2024
ปุ๋ยอินทรีย์ตามชื่อของมัน ทำจากอินทรียวัตถุ เป็นสารประกอบตามธรรมชาติหลายชนิดที่มีโมเลกุลของคาร์บอน เช่น ซากสัตว์หรือผัก สิ่งที่ตรงกันข้ามกับปุ๋ยอินทรีย์คือปุ๋ยแร่ธาตุซึ่งประกอบด้วยไนโตรเจน ฟอสฟอรัส กำมะถัน แมกนีเซียม ฯลฯ จะรู้จักปุ๋ยอินทรีย์ได้อย่างไร โดดเด่นด้วยกลิ่นที่รุนแรงและไม่พึงประสงค์ กลิ่นมักเป็นผลมาจากการเน่าเปื่อยและการหมัก ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับสารอินทรีย์ทั้งหมด
18 ต.ค. 2024